เต่าซูคาต้า หรือ เต่าเดือยแอฟริกา เป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในประเทศไทย ด้วยความที่เป็นเต่าบกขนาดใหญ่ที่มีนิสัยเชื่อง น่ารัก และเลี้ยงง่าย จึงเหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการเลี้ยงสัตว์เลื้อยคลานเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ เต่าซูคาต้ายังเป็นสัตว์มงคลตามความเชื่อของชาวจีนอีกด้วย
ลักษณะเด่นของเต่าซูคาต้า:
- ขนาดใหญ่: เต่าซูคาต้าสามารถโตเต็มที่ได้ถึง36 นิ้ว และมีน้ำหนักได้ถึง 100 กิโลกรัม
- อายุยืน: เต่าซูคาต้ามีอายุเฉลี่ย 80-100 ปี หรือมากกว่านั้น
- นิสัยเชื่อง: เต่าซูคาต้ามีนิสัยเชื่องและไม่ดุร้าย สามารถเลี้ยงร่วมกับสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นได้
- เลี้ยงง่าย: เต่าซูคาต้ากินพืชเป็นอาหารหลัก และต้องการพื้นที่ในการเดินเล่นและอาบแดด
สนใจซื้อลูกเต่าซูคาต้า ราคาถูก คลิกเพิ่มเพื่อน แล้วทักไลน์ได้เลยจ้า
ความเชื่อเรื่องความเป็นมงคล:
- ชาวจีนเชื่อว่าเต่าเป็นสัตว์มงคลที่นำมาซึ่งอายุยืนยาว สุขภาพแข็งแรง และความมั่งคั่งร่ำรวย
- เต่าซูคาต้าที่มีอายุยืนยาวกว่า 100 ปี ยิ่งเสริมพลังมงคลทวีคูณ
- เต่าซูคาต้าที่มีลวดลายบนกระดองตามตำราจีน เชื่อกันว่ายิ่งส่งเสริมโชคลาภและความมั่งคั่งให้กับผู้เลี้ยง
ราคา:
- ราคาของเต่าซูคาต้าในประเทศไทยมีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นบาท ขึ้นอยู่กับขนาด อายุ และสายพันธุ์
- เต่าซูคาต้าเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยม มีมูลค่าทางการค้า และมีสายพันธุ์หายาก
การดูแลเบื้องต้น:
1. ที่อยู่อาศัย
-
- ขนาด: เต่าซูคาต้าเป็นเต่าที่มีขนาดใหญ่ เมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดกระดองยาวได้ถึง36 นิ้ว ดังนั้นที่อยู่อาศัยจึงต้องมีขนาดใหญ่เพียงพอเพื่อให้เต่าสามารถเดินและเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวกสบาย สำหรับเต่าขนาดเล็กอาจใช้กล่องพลาสติกหรือตู้ปลาขนาดใหญ่ แต่เมื่อเต่าโตขึ้นควรมีพื้นที่กลางแจ้งหรือโรงเรือนขนาดใหญ่
- แสงแดดและอุณหภูมิ: เต่าซูคาต้าเป็นสัตว์เลือดเย็นที่ต้องการแสงแดดและความร้อนในการดำรงชีวิต ควรจัดให้มีพื้นที่ที่เต่าสามารถอาบแดดได้โดยตรง แต่ก็ต้องมีพื้นที่ร่มเงาให้เต่าหลบแดดได้เช่นกัน อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับเต่าซูคาต้าคือ 25-35 องศาเซลเซียสในเวลากลางวัน และ25 องศาเซลเซียสในเวลากลางคืน หากเลี้ยงในที่ร่มอาจต้องใช้หลอดไฟ UVA และ UVB เพื่อให้แสงและความร้อนที่จำเป็น
2. อาหาร
-
-
- อาหารหลัก: เต่าซูคาต้าเป็นสัตว์กินพืช อาหารหลักควรเป็นหญ้าสด ผักใบเขียว และผักผลไม้ต่างๆ เช่น หญ้าแพงโกล่า หญ้าขน ผักกาดขาว ผักบุ้ง แครอท ฟักทอง และผลไม้ตามฤดูกาล
- อาหารเสริม: ควรเสริมแคลเซียมและวิตามิน D3 เพื่อป้องกันโรคกระดูกอ่อน สามารถให้แคลเซียมในรูปแบบผงโรยบนอาหาร หรือให้กระดองปลาหมึกเป็นแหล่งแคลเซียม
- ความถี่ในการให้อาหาร: เต่าขนาดเล็กควรได้รับอาหารทุกวัน ส่วนเต่าขนาดใหญ่อาจให้อาหารวันเว้นวัน หรือ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
- น้ำ: เต่าซูคาต้าต้องการน้ำสะอาดตลอดเวลา ควรจัดเตรียมชามน้ำขนาดใหญ่ที่เต่าสามารถลงไปแช่ตัวได้
-
3. การดูแลสุขภาพ
- การอาบน้ำ: เต่าซูคาต้าควรได้รับการอาบน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อทำความสะอาดร่างกายและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง
- การตัดเล็บ: เล็บของเต่าซูคาต้าอาจยาวเกินไปจนเป็นอุปสรรคต่อการเดิน ควรตัดเล็บเมื่อจำเป็น โดยใช้กรรไกรตัดเล็บสำหรับสัตว์เลี้ยง
- การตรวจสุขภาพ: ควรพาเต่าซูคาต้าไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์เป็นประจำ เพื่อตรวจหาโรคและรับคำแนะนำในการดูแลที่เหมาะสม
ข้อควรระวัง:
- ควรซื้อจากแหล่งที่ถูกต้อง
- เต่าซูคาต้าเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ที่ต้องการพื้นที่ในการเลี้ยงดู
- เต่าซูคาต้ามีอายุยืนยาว ผู้เลี้ยงต้องมีความพร้อมที่จะดูแลเต่าไปตลอดชีวิต
- ผู้เลี้ยงควรศึกษาข้อมูลและวิธีการเลี้ยงเต่าซูคาต้าอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจเลี้ยง
- เต่าซูคาต้าต้องการพื้นที่กว้างขวางสำหรับการเดินเล่นและอาบแดด
- เต่าซูคาต้ากินผักเป็นอาหารหลัก ควรเลือกผักสด สะอาด ปลอดสารพิษ
สนใจซื้อลูกเต่าซูคาต้า ราคาถูก คลิกเพิ่มเพื่อน แล้วทักไลน์ได้เลยจ้า
การดูแลเต่าซูคาต้าให้มีสุขภาพดีและมีความสุขนั้นต้องอาศัยความเข้าใจและความใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ ที่ได้กล่าวมาข้างต้น หากผู้เลี้ยงมีความพร้อมและตั้งใจที่จะดูแลเต่าซูคาต้าอย่างเหมาะสม เต่าซูคาต้าจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักและสร้างความสุขให้กับผู้เลี้ยงได้อย่างยาวนาน